Last updated: 11 มิ.ย. 2565 | 966 จำนวนผู้เข้าชม |
วิตามินซีดีอย่างไร...???
เรามาถามตอบ
เรื่อง Vitamin C กันค่ะ
Q:เราควรทานวิตามินซี ตอนไหน ?
A:วิตามินซีที่มีผลดีต่อสุขภาพ คือวิตามินซีที่ละลายน้ำได้ และมีความจำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะในการสร้างคอลลาเจนในกระดูกอ่อน หลอดเลือด กล้ามเนื้อ
การทานให้ถูกต้องถูกเวลาจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมนำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การทานที่เหมาะสมคือ ควรทานเวลาเช้าหลังอาหาร ช่วง9.00น.-10.00 น. จะทำให้ร่างกายดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Q:ควรทานวิตามินซี ปริมาณเท่าไรต่อวัน จึงจะได้ผลดีที่สุด?
A:โดยปกติร่างกายของคนเราต้องการวิตามินซีในปริมาณ 1000-2000 มิลลิกรัมขึ้นไป/ต่อวัน
Q:วิตามินซี อยู่ในร่างกายเรานานแค่ไหน?
A:วิตามินซี มีโอกาสเสื่อมสลายได้ง่าย และคงอยู่ในร่างกายเพียง2-3 ชม.เท่านั้น
Q:หากร่างกายเราขาดวิตามินซีจะส่งผลต่อร่างกายอย่างไร?
A:จะมีเลือดออกตามไรฟัน ปวดบริเวณเหงือกบ่อย เจ็บกล้ามเนื้อ อ่อนแรง ปากแห้งแตกเป็นขุย แผลหายช้า อ่อนเพลียเบื่ออาหาร ภูมิต้านทานต่ำ เป็นหวัดง่าย ผิวแห้งกร้านคล้ำเสีย เสี่ยงต่อโรคหัวใจ
Q:วิตามินซี ทำให้ผิวขาว จริงหรือ?
A:วิตามินซี มีส่วนช่วยลดการเกิดเม็ดสรเมลานิน จึงช่วยแก้ปัญหาจุดค่างดำของผิวได้ และผิวพรรณจะดูสดใสขึ้น แต่ไม่อาจขาวเกินสีผิวปกติได้
วิตามินซี ทำหน้าทีให้ความชุ่มชื่น ลดจุดด่างดำด้วยเป็นสารแอนตี้ออกซิเดนท์ จึงทำให้ผิวเรียบเนียนสดใส แลดูสุขภาพผิวดี
Q:วิตามินซี มีประโยชน์ต่อผิวพรรณอย่างไรบ้าง?
A:มีประโยชน์หลายอย่าง เช่น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ช่วยลดริ้วรอยก่อนวัย ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง นุ่มลื่นน่าสัมผัส สิวหายเร็ว ป้องกันผิวหมองคล้ำจากแสงแดด
Q:วิตามินซี มีประโยชน์ต่อสุขภาพเราอย่างไรบ้าง?
A:วิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ(Antioxidant) ที่ร่างกายของเราไม่สามารถสร้างเองได้จำเป็นต้องทานเข้าไป มีส่วนช่วยให้การทำงานของเซลล์ต่างๆในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีประโยชน์มากมาย เช่น
-ต้านการเกิดอนุมูลอิสระ ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
-ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง และทำหน้าที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และขจัดสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย
-เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
-ป้องกันการติดเชื้อไวรัสและแบคมีเรีย
-บำรุงเหงือกและฟันให้แข็งแรง
-เพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กได้ดียิ่งขึ้น
-ทำให้แผลผ่าตัดหายเร็วยิ่งขึ้น
-สลายไขมัน ลดการอุดตันของเส้นเลือด ช่วยลดความดัน
-มีฤทธิ์เป็นยาระบาย ช่วยให้ระบบการขับถ่ายดีขึ้น
-ป้องกันและรักษาโรคหวัด
-ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน
-ลดอาการที่มีผลมาจากสารก่อให้เกิดภูมิแพ้
ด้าน Beauty
-ช่วยลดริ้วรอยก่อนวัย ชะลอความแก่
-กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย
-ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง นุ่มลื่นน่าสัมผัส
-ทำให้สิวหายเร็วขึ้น
-ปกป้องผิวคล้ำจากแสงแดด
รู้จักกับเทคโนโลยี Encapsulation ใน Vitamim CX Plus
ลิขสิทธิ์หนึ่งเดียวจาก สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ(NIA)
คือเทคโนโลยีการห่อหุ้มสารออกฤทธิ์หรือสารสกัดด้วยพอลิเมอร์ชีวภาพหรือพอลิเมอร์สังเคราะห์เป็นชั้นบางๆ แบบชั้นเดียวหรือหลายชั้น เพื่อประโยชน์ในการคงตัวของสารตลอดการใช้งาน ทั้งระหว่างขั้นตอนการผลิตจนถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ จึงทำให้กระบวนการ Encapsulation ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับสารออกฤทธิ์ที่มีความไวต่อสิ่งแวดลอ้มภายนอก เช่น ถูกออกซิไดซ์ได้ง่าย ไวต่อแสง อุณหภูมิ และความเป็นกรดด่าง เป็นต้น การกักเก็บหรือห่อหุ้มนี้จะทำให้สารต่างๆดังกล่าวมีความคงตัวดีขึ้นและเก็บรักษาได้ยาวนาน
ช่วยป้องกันการระเหยของสาร การนำสารออกฤทธิ์ที่เป็นของเหลวมาอยู่มาอยู่ในอนุภาคแคปซูล ช่วยลดปฏิกิริยาของสารผสมหลายตัว ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงจากปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น และสะดวกต่อการนำไปใช้งาน สามารถควบคุมการปลดปล่อยไปสู่บริเวณที่ต้องการได้อย่างเหมาะสม
จุดเด่นของอนุภาคแคปซูลที่ได้จากกระบวนการEncap
1.ทำให้สารมีความคงตัวดีขึ้น สามารถทนต่อสภาวะหรือสิ่งแวดล้อมภายนอก และเก็บรักษาได้ยาวนาน
2.สามารถควบคุมการปลดปล่อยสารเหล่านี้ไปยังบริเวณที่ต้องการได้ในเวลา และปริมาณที่เหมาะสม
ปัจจุบัน สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ(NIA) ได้นำเทคโนโลยี Encap นี้มาใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Vitamin CX Plus ของบจก.ไอยรา แพลนเน็ต จำกัด
เพื่อเป็นการพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมเทคโนโลยีสู่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน
ด้วยการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยี ที่สามารถปลดปล่อยและออกฤทธิ์ในร่างกายได้นานถึง24 ชม.
วิตามินซี เอ็กซ์ พลัส เข้มข้น เต็มคุณค่า แตกต่าง
ด้วยประสิทธิภาพทั้ง4 อย่างนี้
1.ไม่เป็นกรด ไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร และไม่ทำลายสารเคลือบฟัน
2.ดูดซึมสูง
3.ร่างกายนำไปใช้งานได้ทันที
4.คงอยู่ในร่างกายได้นาน 24 ชม. ทำให้ร่างกายสามารถนำวิตามินซี ไปใช้ประโยชน์ได้สูงสุด
21 ก.ค. 2564
20 ก.ค. 2564
14 พ.ย. 2565
21 ก.ค. 2564